ความเชื่อ และวัฒนธรรม มีผลกับอาหารแมวไหม
อาหารแมวแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมและความเชื่อของท้องถิ่น รวมถึงอาหารการกินของคนในประเทศนั้น ๆ อาหารแมวของแต่ละประเทศก็เลยจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไป แม้ว่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกัน ตัวอย่างเช่น

- ในประเทศญี่ปุ่น แมวมักถูกมองว่าเป็นสัตว์นำโชค ดังนั้นอาหารแมวของญี่ปุ่นจึงมักมีส่วนผสมของวัตถุดิบมงคล เช่น ปลาคาร์พ ปลาไหล และข้าวเหนียว เป็นส่วนประกอบหลัก เพราะเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับแมว
- ในประเทศจีน แมวมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความเจริญรุ่งเรือง อาหารแมวของจีนจึงมักมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่มีความหมายมงคลอย่าง ไข่แดง ถั่วแดง เห็ดหลินจือ และมีเนื้อหมูและไก่เป็นส่วนประกอบหลัก เพราะเป็นอาหารที่หาได้ง่ายและราคาถูก
- ในประเทศฝรั่งเศส อาหารแมวมักมีเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ เพราะเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย แต่แมวบ้านเขาก็กินครีมสด และชีตแบบที่เรียกว่าเป็นปกติเลยทีเดียว

- ในประเทศไทย อาหารแมวมักมีเนื้อไก่และปลาเป็นส่วนประกอบหลัก เพราะเป็นอาหารที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง แต่ก็มักจะนำเอาพีชผลทางการเกษตรอย่าง ถั่วเหลือง ข้าวโพดใส่มาด้วยนี่สิ
นอกจากนี้ อาหารแมวในแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิอากาศและฤดูกาล ตัวอย่างเช่น
- ในประเทศที่อากาศหนาวเย็น แมวอาจต้องการอาหารที่มีไขมันมากกว่าแมวในประเทศที่อากาศอบอุ่น
- ในประเทศที่อากาศร้อน แมวอาจต้องการอาหารที่มีน้ำมากกว่าแมวในประเทศที่อากาศหนาวเย็น
แม้ว่าอาหารแมวแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายประการ แต่สิ่งสำคัญคืออาหารแมวนั้นต้องมีคุณภาพดีและมีสารอาหารครบถ้วน เพื่อให้แมวได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

อย่างไรก็ตามอาหารแมวแต่ละประเทศก็มีจุดร่วมบางประการเหมือนกัน คือ อาหารแมวทุกประเทศควรมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพแมวครบถ้วน ได้แก่ โปรตีนที่มาก ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ เจ้าของควรเลือกอาหารแมวให้เหมาะสมกับช่วงอายุ สายพันธุ์ และสุขภาพของแมว เพื่อให้แมวได้รับสารอาหารครบถ้วนและเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง