โรคหวัดในแมวมีทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรง หากแมวคุณโชคดีก็หายเองได้ แต่หากโชคร้ายก็อาการหนักถึงตายได้เช่นกัน หากเป็นติดเชื้อที่ไม่รุนแรง แมวมักจะไม่แสดงอาการ และหายได้เองภายใน 7-14 วัน แต่ก็อยากให้อ่านจนจบครับ
อาการของโรคหวัดแมวที่พบจะมี 2 ระยะ คือ ระยะเฉียบพลัน และเรื้อรัง
- ระยะเฉียบพลัน โดยทั่วไปแมวจะแสดงอาการภายใน 10 วัน
2. ระยะเรื้อรังจะแสดงอาการมากกว่า 10 วัน
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาการของแมวก็จะมี ซึม เบื่ออาหาร สาเหตุมาจากสูญเสียความสามารถในการรับกลิ่น รับรส โดยอาจมีแผลในปากร่วมด้วย มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก น้ำตาใส หรือเป็นน้ำเหลืองปนเลือด บางตัวมีน้ำลายไหล ส่วนใหญ่ระยะเรื้อรังมักพบการติดเชื้อร่วมกันหลายชนิด
เชื้อที่ทำให้เกิดโรค
1. เชื้อไวรัส FHV-1 มักทำให้แมวมีอาการเฉียบพลันร่วมกับ ความผิดปกติของเยื่อบุในตา พบในลูกแมวระยะก่อนหย่านม อาจถึงขั้นตาบอด หรือเสียชีวิตฉับพลัน (fading kitten) จากการติดเชื้อในกระแสเลือด หากเกิดในแม่แมวอาจทำให้แท้งได้แต่พบน้อย อาการสำคัญของเชื่อตัวนี้ คือการพบแผลที่กระจกตา หากเป็นระยะเรื้อรังจะพบกระจกตาบวม ร่วมกับอาการทางระบบหายใจ ไอ จาม มีน้ำมูก
2. เชื้อไวรัส FCV มักพบหลุมแผลในช่องปาก มีอาการทางเดินหายใจเฉียบพลัน ความรุนแรงก็จะขึ้นกับความรุนแรงของเชื้อ แต่หากเป็นติดเชื้อที่ไม่รุนแรง แมวมักจะไม่แสดงอาการ และหายได้เองภายใน 7-14 วัน พบการติดเชื้อที่รุนแรงสูงน้อยมาก ที่พอจะทำให้มีอาการหน้าและขาบวม หนักๆ จะมีจุดเลือดออกตามตัว อุจจาระเป็นเลือด เดินไม่ตรง ควบคุมทืศทางไม่ได้ ตับอ่อน และปอดอักเสบรุนแรง หากมีอาการที่ว่ามามีที่แมวจะเสียชีวิตร้อยละ 30-50 เลยทีเดียว
3. เชื้อแบคทีเรีย B. bronchiseptica และ P. multocida เชื้อทั้ง 2 จะทำเกิดโรคแบบไม่รุนแรง และสามารถหายได้เอง 10 วัน อาการที่พบมีหลายรูปแบบ อาการอาจมี ซึม ไอ จนถึงขั้นปอดบวม มักพบบ่อยในลูกแมวอายุน้อยกว่า 1 ขวบ หรือมักไม่มีอาการของระบบทางเดินหายใจ แต่จะมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ และเชื้อนี้มักมีลักษณะจำเพาะของเชื้อคือเยื่อบุตาขาวบวมจากการติดเชื้อแทรกซ้อน
แมวเป็นหวัด หายเองได้ไหม
หายครับ แต่ไม่มีการรักษาโดยเฉพาะ แต่จะรักษาแบบตามอาการคือมีอาการผิดปกติเรื่องใดก็รักษาเรื่องนั้น อย่าง
1. แมวมีอาการขาดน้ำ ก็จะรักษาความสมดุลกรด-ด่าง และสมดุลอิเล็กโทรไลท์
2. ได้รับพลังงานเพียงพอ อาจเพิ่มอาหารทางสายยาง
3. ติดเชื้อ ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
4. มีเสมหะ ให้ยาละลายเสมหะและขับเสมหะ
5. เมื่อติดเชื้อหลอดลมจะขยายไม่ดี ส่งผลต่อทางเดินหายใจ ให้ยาขยายหลอดลม ให้เพื่อหวังผลลดการหดตัวของกล้ามเนื้อหลอดลม
6. ไอ ให้ยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลาง
การป้องกันโรคหวัดแมว
1. เมื่อนำแมวใหม่มาเลี้ยง ต้องแยกเลี้ยงกับแมวตัวอื่นที่อยู่มาก่อน เพื่อสังเกตอาการป่วยอย่างน้อย 14 วัน ไม่ควรเลี้ยงแมวเยอะเกินไป ดูแลเรื่องความสะอาดของชามอาหาร และกระบะทราย
2. ฉีดวัคซีนป้องกันเมื่อแมวอายุครบ 8 สัปดาห์ กระตุ้นทุก 2-3 สัปดาห์ จนครบ 3 เข็ม จากนั้นทำวัคซีนเป็นประจำทุกปี จะลดความรุนแรงและระยะเวลาแสดงอาการของโรค กรณีแม่แมวทำวัคซีนก่อนผสมพันธุ์ จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของแม่ในนมน้ำเหลืองสูงเพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อในลูกแมวได้
3. หลังพบการติดเชื้อหวัดแมว ให้แยกเลี้ยงแมวที่หายจากโรคแล้วอย่างน้อย 3 สัปดาห์
เป็นอย่างไรบ้างครับเมื่อ ได้รับทราบถึงเชื้อ รักษาอย่างไร รวมถึงการป้องกันโรคหวัดแมว ก็คงจะช่วยให้น้องแมวของท่านปลอดภัยได้บ้าง
ข่าวดีสำหรับคนที่อยากชิว เรามีวีดีโอเสียงให้ท่านได้เปิดฟังสบายๆ ทาสแมวขี้เกียจคงถูกใจใช่ไหมครับ